หนังแท้ สามารถแบ่งประเภทหลักๆ ตามลักษณะและวิธีการผลิตหนัง ได้แก่

• Full Grain: เป็นหนังชั้นบนสุดที่ไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ ยังคงลักษณะธรรมชาติของผิวหนัง รอยย่น รอยแผล และรูขุมขนไว้อย่างครบถ้วน ถือเป็นหนังคุณภาพสูงสุดที่มีเอกลักษณ์และสเน่ห์เฉพาะตัว แต่ก็เป็นหนังที่มีราคาแพงที่สุดด้วย เนื่องจากระหว่างการผลิตต้องสูญเสียหนังบริเวณที่มีรอยและแผลไปมาก

• Top Grain: ได้จากการตกแต่งผิวหน้าของ Full Grain เพียงเล็กน้อยเพื่อให้ได้พื้นผิวที่สวยงามขึ้น แต่ก็ยังคงความแข็งแรงทนทานไว้ได้มาก หนัง Top Grain จะเหลือเพียงรอยย่นและรูขุมขนเล็กน้อย ส่วนรอยแผลจะถูกขจัดออกไป จึงเป็นหนังที่ได้รับความนิยมสำหรับใช้ผลิตกระเป๋าหนังแบรนด์ดังต่างๆ

• Corrected Grain: เป็นหนังที่ถูกขัดผิวหน้าออกไปค่อนข้างมาก จนแทบจะไม่เหลือลักษณะธรรมชาติของผิวหนังเหมือนสองชนิดแรก แต่ก็ยังคงคุณสมบัติความทนทานและแข็งแรงคงทนไว้ได้ดี หนังประเภทนี้มีราคาถูกกว่า และเหมาะสำหรับการนำไปอัดลายหรือทำลวดลายต่างๆ ขึ้นมา เช่น หนังเม็ดลายลิ้นจี่ หนังซาเฟียโน เป็นต้น

• Split: หรือหนังชั้นในสุดที่แยกออกมาจากชั้นนอกของหนังสัตว์ จะมีลักษณะนุ่มและมีขนสั้นๆ คล้ายกำมะหยี่ เช่น หนังกลับ ไม่มีชั้นผิวหนังปกคลุม จึงค่อนข้างดูแลรักษายาก แต่ก็ได้ยังรับความนิยมนำมาผลิตเป็นเครื่องหนังหลายชนิด

• Bonded Leather: เป็นหนังที่มีคุณภาพต่ำที่สุด ผลิตจากการนำเศษหนังเหลือใช้มาบดและอัดรวมกันด้วยกาวและสารเคมีต่างๆ แล้วพิมพ์ลวดลายหรือทำสีเพื่อให้ดูคล้ายหนังแท้ หนังประเภทนี้จึงไม่แข็งแรง สัมผัสรู้สึกไม่เหมือนหนังธรรมชาติ แต่ก็ยังได้รับความนิยมในสินค้าราคาประหยัด เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า

Genuine leather can be categorized into different types based on its characteristics and production methods such as:

• Full Grain: This is the uppermost leather that has not undergone any processing or treatment. It retains the natural characteristics of the leather surface, wrinkles, scars, and grain pores completely intact. It is considered the highest quality leather with its own unique character and charm. However, it is also the most expensive leather because a significant portion with marks and scars must be discarded.

• Top Grain: Derived from slightly surface-treating the full grain leather to achieve a more refined appearance, while still retaining excellent strength and durability. Top grain leather will only exhibit minor wrinkles and grain pores, as the major scars are removed. This makes it popular for producing luxury brand leather bags and goods.

• Corrected Grain: This leather has had its surface layer heavily buffed away, almost completely removing the natural grain texture unlike the first two types but still maintains toughness and durability. This grade is cheaper and suitable for embossing or creating various patterns on the surface, such as pebbled, saffiano leather patterns.

• Split: Or the innermost split layer separated from the outer part of the hide. It has a soft, suede-like napped finish since there is no outer leather layer covering it. This makes it high maintenance, but still popular for producing many types of leather goods.

• Bonded Leather: The lowest quality "leather" made by shredding and rebonding leather fiber waste with adhesives and chemicals, then embossed with patterns or dyed to appear like real leather. Consequently, it lacks durability and an authentic leather feel. However, it remains popular for inexpensive products due to its very low production costs.